10 ข้อดีของการ เดินขึ้น-ลงบันได แทน การใช้ลิฟท์
10 ข้อดี ของการออกกำลังแบบขึ้น-ลงบันได
1. สามารถออกกำลังกายได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยเฉพาะในที่ทำงาน
2. เพิ่มสมรรถภาพความแข็งแรงและทนทานของระบบหัวใจ หลอดเลือด และปอด เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิค ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน
3. เพิ่มความแข็งแรงของระบบกล้ามเนื้อ
4. เป็นการออกกำลังกายที่เก็บสะสมได้จนเท่ากับการออกกำลังกาย 30 นาทีต่อวัน
5. การขึ้นบันไดสามารถเผาผลาญพลังงานส่วนเกินได้ ถึง 8 – 11 กิโลแคลอรีต่อนาที ซึ่งถือว่าสูงเมื่อเทียบกับการออกกำลังกายทั่วไป ส่วนการลงบันไดจะใช้พลังงานประมาณ 1 ใน 3 ของการขึ้นบันได
วิธีการคำนวณแคลอรี่ที่เผาผลาญ
มีวิธีง่ายๆ ดังนี้
การขึ้นบันได 1 ขั้น ร่างกายจะเผาผลาญพลังงาน = 0.0033 กิโลแคลอรี่/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
ตัวอย่าง
สมมุติเรามีน้ำหนักตัว 60 กิโลกรัม
ถ้าขึ้นบันได 1 ขั้น จะเผาผลาญได้ 0.0033 x 60 = 0.1980 กิโลแคลอรี่
ถ้าขึ้นบันได 20 ขั้น (ขึ้นจากชั้น1ไปชั้น2)
จะเผาผลาญได้ 0.1980 x 20 = 3.96 กิโลแคลอรี่
ถ้าขึ้นบันไดจากชั้น 1 ไปถึงชั้น 3 มีจำนวนขั้นบันได 40 ขั้น
จะเผาผลาญได้ 0.1980 x 40 = 7.92 กิโลแคลอรี่
แล้วถ้าในหนึ่งวันขึ้นลงบันได 3 ครั้ง ก็เผาผลาญได้ถึง 23.76 กิโลแคลอรี่
การเทียบเป็นเวลา
ขึ้นบันได 1 นาที จะเผาผลาญพลังงานได้ 10 กิโลแคลอรี่ คูณจำนวนเวลา ก็จะได้จำนวนแคลอรี่ที่เผาผลาญ
แต่ถ้าเราขึ้นลิฟท์ 1 นาที จะเผาผลาญพลังงานได้ 1.5 กิโลแคลอรี่ เท่านั้น แตกต่างกันถึง 10 เท่า
6. มีรายงานว่า การขึ้นบันไดเฉลี่ยวันละ 2 ชั้น สามารถลดน้ำหนักได้ 2.7 กิโลกรัมในเวลา 1 ปี
7. มีหลักฐานยืนยันว่า การขึ้นลงบันไดสามารถเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกได้ในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
8. มีหลักฐานยืนยันว่า สามารถลดปริมาณไขมันในร่างกาย และเพิ่มปริมาณ High-density lipoprotein (HDL) ซึ่งเป็นไขมันชนิดดีได้
9. ไม่เสียค่าใช้จ่าย ไม่ต้องการอุปกรณ์พิเศษใดๆ
10. เป็นการประหยัดค่าไฟฟ้าสำหรับการใช้ลิฟต์หรือบันไดเลื่อน
การที่เรารู้สึกเมื่อยล้าตอนเดินขึ้นบันไดหรือขึ้นที่สูงนั้นก็เพราะแรงโน้มถ่วงของโลก การก้าวขึ้นบันไดเป็นการเดินสวนทางกับแรงโน้มถ่วงของโลก
เมื่อเดินขึ้นบันไดกล้ามของพวกเราทำงานมากขึ้น เพื่อยกน้ำหนักของเราให้พ้นแรงดึงดูดของโลก หัวใจจะสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างของร่างกายเพิ่มมากขึ้น ปอดก็จะทำงานมากขึ้นเพื่อขับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาและรับก๊าซออกซิเจนเข้าไปแทนที่ พวกเราก็เลยหายใจหนักขึ้นแล้วก็อ่อนเพลียขึ้นด้วย ในขณะที่การเดินลงบันไดจะไปในแนวทางตามแรงดึงดูดของโลกกล้ามก็เลยไม่ต้องออกแรงต้าน การเดินลงบันไดจึงใช้พลังงานเพียงแค่ 1 ใน 3 ของการเดินขึ้นบันได
มีการทดลองที่น่าสนใจเกี่ยวกับการออกกำลังโดยเดินขึ้นบันไดไว้ดังนี้
การทดลองแรก ในประเทศฟินแลนด์
โดยนักวิจัยแกล้งทำให้ลิฟท์ในสถานที่ทำงานในอาคาร 11 ชั้นเสีย ทุกคนจำเป็นต้องขึ้นลงบันไดวันละหลายๆ ครั้ง เมื่อทำการศึกษาไปพบว่า ผู้ที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้นที่สุด เป็นผู้ที่ต้องขึ้นบันไดวันละ 25 ชั้นขึ้นไป ถ้าหากน้อยกว่านี้ก็แข็งแรงลดลงไปตามส่วนงานวิจัยชิ้นนี้นับเฉพาะการเดินขึ้นบันไดขาขึ้น ไม่นับขาลง
การทดลองที่สอง โดย อาจารย์ดอกเตอร์ฟิลิปป์ เมย์ จากมหาวิทยาลัยเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์
ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างจำนวน 69 คนโดยคัดเลือกอาสาสมัครประเภทไม่ค่อยออกแรง-ออกกำลัง ได้แก่ ออกกำลังน้อยกว่า 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เดินขึ้นลงบันไดน้อยกว่า 10 ขั้น หรือ 10 ก้าวต่อวัน
การศึกษาโดยให้กลุ่มทดลองไม่ใช้ลิฟต์เลยเป็นเวลา 12 สัปดาห์ หรือ 3 เดือน ทำให้อาสาสมัครจะต้องขึ้นหรือลงบันไดเฉลี่ย 5-23 ชั้นต่อวัน เมื่อทำการตรวจร่างกายอาสาสมัครหลังครบ 3 เดือนแล้ว ปรากฏว่า อาสาสมัครเปลี่ยนไปจากเดิมดังต่อไปนี้
- ความจุปอด (lung capacity) เพิ่มขึ้น
- ความดันเลือด ลดลง
- ไขมันในเลือดหรือโคเลสเตอรอลรวมลดลง
- น้ำหนักตัว ลดลง
- ไขมันส่วนลึกในช่องท้อง ลดลง
- เส้นรอบเอว ลดลง
- ความฟิตแบบแอโรบิค (aerobic fitness) เพิ่มขึ้น
- การคำนวณโอกาสตายก่อนวัยอันควรลดลง 15%
แล้วสุขภาพของเราจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างคาดไม่ถึง เพียงการขึ้นลงบันไดแทนการใช้ลิฟท์ ช่วยทั้งการออกกำลังกายและเผาผลาญแคลอรี่ส่วนเกินของร่างกายอีก ด้วย “SMK Health" แอปพลิเคชันเพื่อคนรักสุขภาพที่ส่งเสริมการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง จากประกันสุขภาพตามฟิต ตามก้าว ..ยิ่งก้าว เบี้ยยิ่งลด.. พร้อมรับเบี้ยคืน หากก้าวเดินได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด คลิก www.smk.co.th/prehealth.aspx หรือ โทร 1596
สินมั่นคงประกันสุขภาพ..เราประกัน คุณมั่นใจ..
ไม่มีความคิดเห็น: