Ads Top

SMK Insurance

ประกันภัยไข้เลือดออก - ภัยเงียบจากยุงลาย ร้ายกว่าที่คิด

แม้กระแสความน่ากลัวของการกลับมาระบาดอีกเป็นระลอกที่ 2 ของโรคโควิด-19 จะสร้างความกังวลให้กับผู้คนในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดระยองและกรุงเทพมหานคร แต่อีกภัยเงียบที่หลายคนอาจหลงลืมไปคือ เชื้อไวรัสจากยุงลาย สาเหตุสำคัญของการเกิดโรค “ไข้เลือดออก” ที่แม้จะผ่านมาเพียงครึ่งปี แต่จากสถิติล่าสุดของกองโรคติดต่อนำโดยแมลง กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ติดเชื้อแล้วมากถึง 25,708 ราย และเสียชีวิตแล้วทั้งสิ้น 15 ราย 



ถึงแม้ตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจไม่ได้มีจำนวนเยอะเทียบเท่ากับจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 แต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อกลับมาจำนวนมากกว่าหลายเท่าตัว แสดงให้เห็นว่า การแพร่กระจายของโรคไข้เลือดออก มีอัตราที่รวดเร็วและรุนแรงกว่าโรคโควิด-19 มากนัก สินมั่นคงประกันภัย จึงอยากพาคุณมาทำความรู้จักกับอันตรายและภัยเงียบที่เราอาจได้รับจากโรคไข้เลือดออกกันค่ะ

โรค “ไข้เลือดออก” เกิดจากอะไร

โรค “ไข้เลือดออก” มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue virus) มีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ โดยมียุงลายบ้านเป็นแมลงนำโรคที่สำคัญ และในชนบทบางพื้นที่จะมียุงลายสวนเป็นแมลงนำโรคร่วมกับยุงลายบ้าน เมื่อยุงลายตัวเมียกัดและดูดเลือดผู้ป่วยที่อยู่ในระยะไข้ซึ่งเป็นระยะที่มีไวรัสอยู่ในกระแสเลือดมาก เชื้อไวรัสจะเข้าสู่กระเพาะยุง และเพิ่มจำนวนมากขึ้น แล้วเดินทางเข้าสู่ต่อมน้ำลาย พร้อมที่จะเข้าสู่คนที่ถูกกัดต่อไป

เมื่อยุงที่มีเชื้อไวรัสเดงกีไปกัดคนอื่นก็จะปล่อยเชื้อไปยังคนที่ถูกกัดจนทำให้ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก และเมื่อมีการติดเชื้อไวรัสเดงกีชนิดหนึ่งจะมีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสเดงกีชนิดนั้นตลอดไป โดยจะมีภูมิคุ้มกันต่อชนิดอื่นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 6-12 เดือน ดังนั้น ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีไวรัสเดงกีชุกชุมอาจมีการติดเชื้อซ้ำอีก 3 หรือ 4 ครั้ง

อาการของโรค “ไข้เลือดออก”

หลังจากได้รับเชื้อจากยุงลายประมาณ 5-8 วัน ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการของโรคซึ่งอาจมีความรุนแรงแตกต่างกันได้ ตั้งแต่มีอาการคล้ายไข้เดงกี ไปจนถึงมีอาการรุนแรง และรุนแรงมากจนถึงช็อกและเสียชีวิต โดยโรคไข้เลือดออกเดงกี มีอาการสำคัญที่เป็นรูปแบบค่อนข้างเฉพาะ 4 ประการ เรียงตามลำดับการเกิดก่อนหลัง ดังนี้
  • ไข้สูงลอย 2-7 วัน
  • มีอาการเลือดออก ส่วนใหญ่จะพบที่ผิวหนัง
  • มีตับโต กดเจ็บ
  • มีภาวะไหลเวียนโลหิตล้มเหลว/ภาวะช็อก


นอกจากนี้ อาการของโรคไข้เลือดออกเดงกี ยังแบ่งออกได้เป็น 3 ระยะ คือ ระยะไข้ ระยะวิกฤต/ช็อก และระยะฟื้นตัว โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. ระยะไข้

  • ผู้ป่วยจะมีไข้สูงเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน ส่วนใหญ่ไข้จะสูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส
  • บางรายอาจมีอาการชักเกิดขึ้นโดยเฉพาะในเด็กที่เคยมีประวัติชักมาก่อน
  • ผู้ป่วยมักจะมีหน้าแดง
  • จะไม่มีอาการน้ำมูกไหลหรืออาการไอ เบื่ออาหาร อาเจียน และไข้จะสูงลอยอยู่ 2-7 วัน
  • อาการเลือดออกที่พบบ่อยคือ ที่ผิวหนัง ร่วมกับมีจุดเลือดออกเล็ก ๆ กระจายตามแขน ขา ลำตัว รักแร้
  • อาจมีเลือดกำเดาหรือเลือดออกตามไรฟัน
  • ในรายที่รุนแรงอาจมีอาเจียนและถ่ายอุจจาระเป็นเลือด ซึ่งมักจะเป็นสีดำ (melena)
  • ส่วนใหญ่จะคลำตับ โต ได้ประมาณวันที่ 3-4 นับแต่เริ่มป่วย ในระยะที่ยังมีไข้อยู่ ตับจะนุ่มและกดเจ็บ

2. ระยะวิกฤติ/ช็อก

ประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ป่วยไข้เลือดออกเดงกี จะมีอาการรุนแรง มีภาวะไหลเวียนโลหิตล้มเหลวเกิดขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นพร้อม ๆ กับที่มีไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว เวลาที่เกิดช็อกจึงขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่มีไข้ อาจเกิดได้ตั้งแต่วันที่ 3 ของโรค (ถ้ามีไข้ 2 วัน) หรือเกิดวันที่ 8 ของโรค (ถ้ามีไข้ 7 วัน) ภาวะช็อกที่เกิดขึ้นนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่ได้รับการรักษาผู้ป่วยจะมีอาการแย่ลง และเสียชีวิตภายใน 12-24 ชั่วโมง หลังเริ่มมีภาวะช็อก



3. ระยะฟื้นตัว

ระยะฟื้นตัวของผู้ป่วยค่อนข้างเร็ว ในผู้ป่วยที่ไม่ช็อกเมื่อไข้ลดส่วนใหญ่จะมีอาการดีขึ้น ส่วนผู้ป่วยช็อกถ้าได้รับการรักษาอย่างถูกต้องทันท่วงทีจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาประมาณ 2-3 วัน ผู้ป่วยจะมีอาการดีขึ้นอย่างชัดเจน

ป้องกันดีแค่ไหน แต่ภัยร้ายจากยุงลาย ก็ทำร้ายเราได้มากกว่าที่คิด ประกันภัยไข้เลือดออก ประกันสุขภาพจากสินมั่นคงประกันภัย เบี้ยเริ่มต้น 203 บาทต่อปี ค่ารักษาพยาบาลและเงินชดเชยสูงสุดถึง 195,000 บาท ช่วยให้คุณอุ่นใจเรื่องค่ารักษาพยาบาลจากโรค “ไข้เลือดออก” คุ้มครองทั้งกรณีผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD) พร้อมค่าชดเชยรายวันระหว่างรักษาตัว ร่วมปกป้องคนที่คุณรักตั้งแต่วันนี้ สนใจรายละเอียด คลิก หรือ โทร.1596 ตลอด 24 ชั่วโมง

สินมั่นคงประกันสุขภาพ ..เราประกัน คุณมั่นใจ..

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.