เก็บเงินอย่างไรให้ได้ผล? เทคนิคเพิ่มเงินออมในกระเป๋า
“เงินออม” มักเป็นทางออกฉุกเฉินในสถานการณ์วิกฤตที่หลายคนกำลังเผชิญอยู่จากสภาพเศรษฐกิจยุคโควิด 19 แต่หลายครั้งที่การออมเงินมักแทบไม่ประสบความสำเร็จได้อย่างที่ใจหวัง สินมั่นคงประกันภัย มีเคล็ดลับดีๆ มาฝาก พร้อมเทคนิคเพิ่มเงินออมในกระเป๋าที่จะมาช่วยให้คุณได้หยิบฉวยออกมาใช้ในวันที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
ออมเงินอย่างไร...เลือกสไตล์การออมในแบบคุณ
การออมเงินดูจะเป็นเรื่องอึดอัดลำบากใจสำหรับใครหลายคนที่ยังไม่ได้ลงมือทำอย่างที่ใจคิด อาจทดลองเลือกวิธีการออมเงินให้ตรงตามไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตด้วยวิธีง่ายๆ คือ
- เปลี่ยนจาก “เอาเงินไปใช้ก่อน...เหลือเท่าไรค่อยออม” มาเป็น “ออมก่อน...เหลือเท่าไรค่อยใช้” อาจเริ่มต้นออมที่เดือนละ 10% ของรายได้ เช่น มีรายรับเดือนละ 10,000 บาท หักเข้าบัญชีเงินออมเดือนละ 1,000 บาท เหลือให้ใช้จ่ายไว้เพียง 9,000 บาท
- หากเป็นคนที่ชอบชอปปิง ลองเปลี่ยนมาใช้วิธี “ทุกครั้งที่จ่าย ต้องเก็บเงิน 10% ของยอดที่ใช้” เช่น ซื้อของ 2,000 บาท ออมเพิ่ม 200 บาท
- เจอแบงค์ 50 ให้เก็บเข้ากระปุกทันที เพราะธนบัตรใบละ 50 บาท มักเป็นธนบัตรที่ไม่ค่อยพบเจอได้บ่อยในการใช้ชีวิตประจำวัน ตั้งกฎกับตัวเองง่ายๆ ว่าหากได้รับแบงค์ 50 เข้ามาในกระเป๋า ต้องเก็บเข้ากระปุกทันทีไม่นำออกมาใช้
เทคนิคแบ่งเงินออมเป็น 4 หมวด
ขั้นตอนต่อไปของการจัดสรรเงินออม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (https://www.set.or.th/) ให้คำแนะนำไว้ว่า ควร “แยกบัญชีเงินออมออกจากบัญชีใช้จ่ายทั่วไป” เนื่องจากธรรมชาติของมนุษย์ เมื่อมีเงินอยู่ในมือ มักมีเรื่องให้ใช้จ่ายได้ตลอดเวลา จึงควรแบ่งเงินออมออกเป็นทั้งหมด 4 บัญชี โดยแยกแต่ละบัญชีตามวัตถุประสงค์การออมให้ชัดเจน ดังนี้
- “บัญชี S.O.S” หรือเรียกง่ายๆ ว่า “บัญชีฉุกเฉิน” เงินก้อนนี้เก็บไว้รับมือกับเรื่องราวไม่คาดฝันต่างๆ ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ เจ็บไข้ได้ป่วย ขึ้นโรงขึ้นศาล หรือตกงานกะทันหัน และควรมีเงินก้อนนี้ติดบัญชีไว้ 6 เท่าของค่าใช้จ่าย
- “บัญชีเงินออมระยะสั้น ถึงระยะกลาง” สำหรับความตั้งใจที่จะเก็บเงินก้อนไว้ดาวน์บ้าน ดาวน์รถ ท่องเที่ยว เก็บเงินเพื่อแต่งงาน หรือเป็นเงินก้อนตามเป้าหมายที่คาดว่าจะใช้งานในอีก 1-3 ปี ข้างหน้า
- “บัญชีเงินออมระยะยาว” เป็นบัญชีเงินออมเพื่ออนาคตที่ควรเก็บไว้ใช้หลังเกษียณ หรือเป็นค่าเล่าเรียนของบุตรหลานในอนาคต เงินก้อนนี้อาจจำเป็นต้องใช้ความตั้งใจและวินัยในการออมสูง จึงต้องกันเงินไว้ทุกเดือนอย่างสม่ำเสมอ มีทริกในการเก็บออมง่ายๆ ว่า “จงลืมว่ามีเงินก้อนนี้อยู่” ไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่ยอมถอนเงินก้อนนี้ไปใช้โดยเด็ดขาด อาจเลือกออมไว้ในรูปแบบของ RMF ที่สามารถขายคืนกองทุนได้อีกครั้งเมื่ออายุ 55 ปี
- “บัญชีเพื่อการลงทุน” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการสร้างความมั่นคงทางการเงิน โดยแบ่งเงินมาเข้าบัญชีนี้สะสมไว้เรื่อย ๆ ครั้งละไม่มาก แล้วค่อยถอนไปลงทุนในทางเลือกอื่นๆ ที่มีโอกาสได้ผลตอบแทนมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก เพื่อให้เงินทำงานได้ด้วยตัวเอง
เหตุไม่คาดฝัน ในวันที่ (อาจ) ออมเงินไม่สำเร็จ
ในการออมเงินย่อมมีอุปสรรคที่อาจคาดไม่ถึงและส่งผลกระทบต่อชีวิตทำให้ไม่สามารถออมเงินได้สำเร็จ แต่การรู้สาเหตุของปัญหาไว้ล่วงหน้า อาจทำให้สามารถเตรียมรับมือและหาทางออกของปัญหาไว้ได้ทันท่วงที ไม่ว่าจะเป็น
- ปัญหาเงินเฟ้อ เป็นศัตรูตัวสำคัญที่กัดกร่อนให้ค่าของเงินลดลง แม้จะไม่สามารถกำจัดอุปสรรคข้อนี้ได้ แต่สามารถเอาชนะได้ด้วยการออมหรือการลงทุนที่ให้อัตราผลตอบแทนโดยเฉลี่ยสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ
- เหตุการณ์ไม่คาดฝันหรือเหตุฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ การเจ็บไข้ได้ป่วย ไฟไหม้ รถชน ฯลฯ ที่อยู่
- นอกเหนือแผนการใช้เงิน หลายครั้งที่เงินออมที่เก็บสะสมมาตลอดชีวิตต้องหมดไปเพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แต่คุณสามารถปกป้องชีวิตและเงินออมของคุณได้ด้วยการทำประกัน (คำนวณเบี้ยประกันรถยนต์ คลิก https://www.smk.co.th/premotor)
- ไม่มีวินัยในการออม เป็นสิ่งที่เกิดจากตัวเราเอง สามารถกำจัดได้แต่ยาก ทางแก้ที่ทำได้ คือ ต้องออมให้เป็นเหมือนหน้าที่ที่ต้องทำทุกวัน
- ความโลภ ในบางครั้งที่เราอยากได้ผลตอบแทนสูงๆ จึงมักนำเงินไปลงทุนในสิ่งที่มีความเสี่ยงสูงเกินไปจนอาจทำให้สูญเงินทั้งหมดไปในคราวเดียว ทางแก้ของปัญหานี้คือ ต้องรู้จักพอ รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน
แม้ช่วงแรกอาจต้องรู้สึกอึดอัดหรือฝืนใจในการเก็บออมเงินอยู่บ้าง แต่พอได้เริ่มลงมือทำไปก็จะเริ่มคุ้นเคยกับการออมมากขึ้น และมีความภาคภูมิใจเมื่อต้องเห็นตัวเลขในบัญชีค่อยๆ เพิ่มขึ้นทุกวันๆ หลังจากนั้นอาจทดลองเพิ่มสัดส่วนการออมเป็น 20% หรือ 30% ของรายได้ ก็จะยิ่งเห็นชัดว่า การออมเงินไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่หลายคนคิด
ไม่มีความคิดเห็น: