Ads Top

SMK Insurance

เลือกวัสดุกระเป๋าเดินทางแบบไหนดี?

เทศกาลตรุษจีนนับเป็นอีกหนึ่งความเคยชินของคนไทยเชื้อสายจีน ที่ต้องออกเดินทางไปพบปะสังสรรค์กับเหล่าพี่น้องและเครือญาติ อาจมีหลายครอบครัวที่จะต้องเดินทางออกต่างจังหวัด หรือบางครั้งอาจท่องเที่ยวไกลไปถึงต่างประเทศ ซึ่งนอกจากจะต้องวางแผนการเดินทางให้ชัดเจนแล้ว ยังจำเป็นจะต้องเลือกสรรกระเป๋าเดินทางให้เหมาะสมกับรูปแบบการเดินทางในแต่ละทริป (ก่อนออกต่างจังหวัด เลือกกระเป๋าเดินทางอย่างไร ? แบบไหนดี ? https://www.smk.co.th/newsdetail/2989) แต่นอกจากจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับรูปแบบการเดินทางแล้ว ยังจำเป็นต้องเลือกกระเป๋าจากวัสดุที่เหมาะสมเพื่อความแข็งแรงคงทนของกระเป๋าด้วย แล้วจะมีวิธีเลือกวัสดุสำหรับกระเป๋าเดินทางอย่างไร สินมั่นคงประกันภัยมีข้อมูลมาฝากค่ะ

วิธีเลือกวัสดุของกระเป๋าเดินทาง 

หากแบ่งกระเป๋าเดินทางออกตามวัสดุที่ผลิต จะสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

1. กระเป๋าเดินทางประเภทอ่อน (Soft Case) ผลิตจากวัสดุผ้าโพลีเอสเตอร์ผสมไนล่อน

ข้อดี : กระเป๋าเบาและยืดหยุ่น สามารถใส่ลงไปในช่องเก็บสัมภาระที่แคบและจำกัดได้ และยังเหมาะมากสำหรับผู้ที่รักการชอปปิงหรือมีเสื้อผ้าสิ่งของเยอะมาก ๆ เพราะกระเป๋าสามารถยืดหยุ่นและเพิ่มพื้นที่ความจุได้มากขึ้น นอกจากนี้บางรุ่นยังผลิตจากผ้าที่สามารถกันน้ำได้ด้วย

ข้อเสีย : ป้องกันการกระแทกได้น้อยกว่าแบบแข็ง และอาจฉีกขาดได้หากทำมาจากวัสดุที่คุณภาพไม่ดีพอ บางรุ่นไม่สามารถกันน้ำได้

2. กระเป๋าเดินทางประเภทแข็ง (Hard Case) ผลิตจากวัสดุพลาสติก ส่วนมากเป็นโพลีคอร์บอเนต (PC) และอะคริโลไนไตรล์-บิวทาไดอีน-สไตรีน (ABS)

ข้อดี : มีความแข็งแรงทนทาน มีโครงสร้างกันกระแทก กระเป๋าเดินทางบางรุ่นมีการผลิตจากวัสดุพิเศษที่ทำให้กระเป๋ามีน้ำหนักเบาแต่ยังคงทนแข็งแรง ทำให้ของภายในไม่เสียทรงหรือเสียหายหากเกินแรงกดทับหรือการกระแทกแรง ๆ สามารถกันน้ำได้ และยังสามารถป้องกันขโมยได้ระดับหนึ่งเพราะกรีดเปิดได้ยาก

ข้อเสีย : กระเป๋าเดินทางประเภทนี้ไม่สามารถยืดหยุ่นได้ จึงยากต่อการเก็บ ไม่ว่าจะเป็นในบ้านหรือในรถ และไม่เหมาะกับคนที่มีของเยอะ เพราะกระเป๋าจะแข็ง ไม่สามารถยืดหยุ่นเพิ่มพื้นที่ได้ นอกจากนี้หากกระเป๋าทำมาจากวัสดุที่คุณภาพไม่ดีหรือถูกมากๆ ก็อาจจะแตกได้

3. กระเป๋าเป้แบ็กแพ็ก ควรเลือกที่ทำจากผ้าที่ทนทานต่อการฉีกขาด มีรอยเย็บที่แข็งแรง ตัวกระเป๋ามีความเบาแต่รับน้ำหนักได้ดี และมีโครงสร้างที่ซัพพอร์ตหลัง สะพายนานๆ แล้วไม่ปวดหลัง ไม่เมื่อย บางรุ่นกันน้ำกันฝนได้ ระบายอากาศได้ดี

เทคนิคเลือกกระเป๋าเดินทางจากส่วนต่างๆ ของกระเป๋า

1. ซิปกระเป๋า

ตรวจดูซิปกระเป๋าให้ดีว่ามีความแข็งแรง เปิดง่ายไม่กินเนื้อผ้า กระเป๋าบางรุ่นจะมีซิป 2 ทิศทางทำให้สะดวกต่อการเปิดใช้งานอีกด้วย 

2. หูหิ้ว/คันชัก

หูหิ้วกระเป๋าก็สำคัญ ควรมีความแข็งแรงจับได้ง่าย สำหรับกระเป๋าลากจะมีหูคันชักเพื่อให้สะดวกต่อการลาก ควรเลือกแบบที่สามารถปรับระดับความยาวได้เหมาะกับความสูงของผู้ถือ ควรเป็นคันชักที่ติดตั้งอยู่ในกระเป๋าเพราะพังยากกว่า และมีความแข็งแรงทนทาน อย่าลืมทดลองจับและลาก หากกระเป๋ายังชนกับขาแสดงว่าความยาวของคันชักยังไม่สัมพันธ์กับความสูง

3. ล้อ

กระเป๋าเดินทางแบบมีล้อลาก จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการเคลื่อนย้ายกระเป๋า ควรเลือกล้อที่เป็นยางทั้งลูก มีตลับลูกปืน ล้อที่ฝังอยู่ในกระเป๋าจะพังยากกว่าล้อที่ยื่นออกมานอกกระเป๋า และล้อแบบคู่จะแข็งแรงทนทานกว่า โดยสามารถแบ่งประเภทกระเป๋าออกเป็น

- กระเป๋าลากแบบ 2 ล้อ

ข้อดี : สะดวกมากหากต้องลากกระเป๋าไปบนทางที่ขรุขระไม่สม่ำเสมอ ควรเลือกล้อที่สามารถหมุนไปได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพราะจะง่ายต่อการลาก

ข้อเสีย : กระเป๋าลากแบบ 2 ล้อนั้น จะต้องใช้กำลังแขนในการลากมากกว่าแบบ 4 ล้อ เพราะกระเป๋าต้องถูกลากอยู่ด้านหลังเท่านั้น ซึ่งหากกระเป๋าหนักมากและต้องลากเป็นเวลานานอาจทำให้ปวดข้อมือและไหล่ได้

- กระเป๋าลากแบบ 4 ล้อ

ข้อดี : สามารถลากได้ง่ายกว่าแบบ 2 ล้อ ช่วยประหยัดแรง ไม่ทำให้ปวดข้อมือหรือไหล่ นอกจากนี้ล้อที่สามารถหมุนได้ 360 องศา จะทำให้เคลื่อนย้ายกระเป๋าได้ง่ายแม้ในพื้นที่ที่จำกัด เช่น บนรถไฟ บนทางเดินในเครื่องบิน และในลิฟต์

ข้อเสีย : ล้อลากที่ยื่นออกมานอกกระเป๋า อาจพังเสียหายได้ง่าย และด้วยความที่มี 4 ล้อ กระเป๋าจึงไม่สามารถวางบนทางลาดได้ นอกจากนี้การนำกระเป๋าขึ้นเครื่องบิน สายการบินจะวัดขนาดกระเป๋ารวมทั้งตัวกระเป๋าและล้อด้วย จึงควรที่จะตรวจสอบให้แน่ใจว่ากระเป๋าจะไม่มีขนาดที่ใหญ่เกินข้อกำหนด

เลือกกระเป๋าเดินทางจากวัสดุที่แข็งแรงทนทานและเหมาะกับการใช้งาน จะช่วยให้มีกระเป๋าเดินทางไว้ใช้งานได้นานยิ่งขึ้น และการวางแผนทุกครั้งก่อนออกเดินทางจะช่วยให้สามารถออกเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างสบายใจ เดินทางอย่างมั่นใจ ปลอดภัยตลอดทริปได้มากกว่า ด้วยประกันภัยการเดินทาง (TA) ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลระยะสั้นที่มีจุดมุ่งหมายที่จะให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างการเดินทางของผู้เอาประกันภัยซึ่งอยู่ระหว่างการท่องเที่ยว ตลอด 24 ชั่วโมง สนใจรายละเอียด คลิก https://www.smk.co.th/productpadetail/3 หรือ โทร. 1596 ตลอด 24 ชั่วโมง Line : smkinsurance และสามารถติดตามเนื้อหาสาระดีๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://smkinsurance.blogspot.com/


ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.