น้ำมันเครื่องรถยนต์ ใส่มอเตอร์ไซค์ได้หรือไม่?
การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ขับขี่ทุกคนต้องให้ความใส่ใจหมั่นคอยดูแลรถยนต์คู่ใจให้ปลอดภัยและพร้อมใช้งานอยู่เสมอ (น้ำมันเครื่องควรเลือกอย่างไรดี https://www.smk.co.th/newsdetail/327) และในบางครั้ง ผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์อาจไม่สามารถหาน้ำมันเครื่องสำหรับรถจักรยานยนต์ได้สะดวก เลยอาจมองหาน้ำมันเครื่องสำหรับใส่รถยนต์มาทดแทน เพราะเข้าใจว่ามีลักษณะเป็นของเหลวชนิดเดียวกันและทำหน้าที่หล่อลื่นเครื่องยนต์ได้เช่นกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว สามารถทำได้หรือไม่ สินมั่นคงประกันรถยนต์ มีข้อมูลมาฝากค่ะ
น้ำมันเครื่อง คืออะไร
น้ำมันเครื่อง คือของเหลวที่ทำหน้าที่หล่อลื่นชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในเครื่องยนต์ให้ทำงานได้อย่างลื่นไหล เต็มประสิทธิภาพ และยังช่วยปกป้องเครื่องยนต์จากสนิม ซึ่งในน้ำมันเครื่องบางยี่ห้ออาจใส่สารเติมแต่งต่าง ๆ ที่ช่วยชะล้างทำความสะอาดเครื่องยนต์ ป้องกันการเกิดตะกอนอีกด้วย
น้ำมันเครื่อง มีกี่ประเภท
น้ำมันเครื่องที่มีจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดโดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
- น้ำมันเครื่องธรรมดา (Synthetic) ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นที่กลั่นจากน้ำมันปิโตรเลียม
- น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi Synthetic) ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นธรรมดากับชนิดสังเคราะห์
- น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ (Fully Synthetic) ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นที่สังเคราะห์จากน้ำมันปิโตรเลียม
มาตรฐานน้ำมันเครื่อง
มาตรฐานน้ำมันเครื่อง สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ
1. มาตรฐาน API หรือ American Petroleum Institute คือ องค์กรหรือหน่วยงานที่กำหนดคุณภาพของน้ำมันเครื่องชนิดนั้น ๆ ว่ามีค่าความหนืด การระบายความร้อน หรือการหล่อลื่นต่าง ๆ เป็นอย่างไร เพื่อให้ได้มาตรฐานน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับการใช้งานในรถยนต์ทุกชนิด โดยแบ่งออกเป็นสองกลุ่มย่อยได้แก่
- API-S สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน
- API-C สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล
ทั้งนี้ จะมีตัวอักษรภาษาอังกฤษต่อท้ายอีกหนึ่งตัวที่จะเป็นตัวกำหนดค่ามาตรฐานที่สอดคล้องกับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ในปัจจุบัน เช่น เครื่องยนต์เบนซิน API-SN คือค่ามาตรฐานน้ำมันเครื่องที่ดีที่สุดในตอนนี้ ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลจะเป็น API-CK ค่ามาตรฐานน้ำมันเครื่องล่าสุด
2. มาตรฐาน JASO หรือ Japanese Automobile Standards Organization องค์กรมาตรฐานยานยนต์ของประเทศญี่ปุ่น ได้กำหนดมาตรฐานของน้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์ โดยใช้ค่าแรงเสียดทานเป็นตัวกำหนดเพราะจะมีผลโดยตรงต่อการทำงานของระบบคลัทช์ ซึ่งในรถมอเตอร์ไซค์นั้นจะมี คลัทช์เปียก และคลัทช์แห้ง
ประเภทของคลัทช์
ระบบคลัทช์ในรถจักรยานยนต์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- คลัทช์เปียก คือ เครื่องยนต์ที่มีระบบคลัทช์อยู่ในห้องเดียวกับตัวเครื่องยนต์ และอาศัยการหล่อลื่นจากน้ำมันเครื่องด้วยเช่นกัน จะมีตัวอักษรภาษาอังกฤษกำกับไว้ เช่น JASO MA, JASO MA1 และ JASO MA2
- คลัทช์แห้ง คือ เครื่องยนต์ที่ไม่ได้มีระบบการทำงานของคลัทช์อยู่ภายใน ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันหล่อลื่น จะมีตัวอักษรภาษาอังกฤษกำกับไว้ เช่น JASO MB และ JASO MA
น้ำมันเครื่องรถยนต์ ใส่กับมอเตอร์ไซค์ได้หรือไม่?
น้ำมันเครื่องสำหรับรถยนต์สามารถนำมาใช้ทดแทนกับน้ำมันเครื่องสำหรับรถจักรยานยนต์ได้ แต่ควรเป็นการใช้แต่เพียงแบบชั่วคราวหรือเหตุฉุกเฉินเท่านั้น แม้การใช้น้ำมันเครื่องรถยนต์ในมอเตอร์ไซค์จะไม่ได้ทำให้เครื่องยนต์เสียหายแบบทันที แต่ในระยะยาวก็อาจเกิดปัญหาได้ เนื่องจากการทำงานของเครื่องยนต์ของรถสองประเภทยังแตกต่างกัน ในรถยนต์การทำงานของเครื่องยนต์และเกียร์จะอยู่คนละส่วนกัน ใช้น้ำมันหล่อลื่นคนละชนิด แต่ในมอเตอร์ไซค์ เครื่องยนต์ เกียร์ และคลัทช์อยู่ในห้องเดียวกันใช้น้ำมันเครื่องร่วมกัน ดังนั้นการใช้น้ำมันเครื่องผิดประเภทจึงอาจทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาได้นั่นเอง
ข้อควรระวังเมื่อต้องใช้น้ำมันเครื่องรถยนต์ใส่กับมอเตอร์ไซค์
- สิ่งที่พบเห็นและได้ยินบ่อยครั้ง หากมอเตอร์ไซค์มีความจำเป็นต้องใช้น้ำมันเครื่องรถยนต์ คือ “คลัทช์ลื่น” เนื่องจากในมอเตอร์ไซค์แบบมีเกียร์ส่วนใหญ่การทำงานของคลัทช์จะอยู่ในห้องเดียวกับเครื่องยนต์และใช้น้ำมันหล่อลื่นตัวเดียวเดียวกัน หรือที่เรียกว่ารถแบบคลัทช์เปียก เมื่อเราใส่น้ำมันเครื่องรถยนต์ที่มีค่าแรงเสียดทานไม่เหมาะสมก็อาจเกิดอาการคลัทช์ลื่น หรือคลัทช์หมดเร็วได้
- หากไม่รู้ว่ารถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ใช้น้ำมันเครื่องชนิดไหน หรือแบบใด สามารถดูได้จากคู่มือของรถซึ่งจะมีระบุไว้ได้
- น้ำมันเครื่องของรถยนต์ ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับแรงอัดสูงของมอเตอร์ไซค์
- น้ำมันเครื่องสำหรับรถยนต์ ไม่ได้ผ่านการทดสอบกับคลัชท์เปียกและเกียร์ที่มีความโหลดสูงของรถมอเตอร์ไซค์
- ถึงแม้จะนำมาใช้กับมอเตอร์ไซค์แบบคลัทช์แห้ง น้ำมันเครื่องก็ยังต้องทำหน้าที่หล่อลื่น ปกป้องเกียร์ ป้องกันชิ้นส่วนที่มีอุณหภูมิสูง ซึ่งน้ำมันเครื่องของรถยนต์อาจทำไม่ได้
ผู้ขับขี่ควรเลือกใช้น้ำมันเครื่องให้ตรงกับประเภทของรถที่ใช้งาน เพื่อป้องกันการเกิดปัญหา และใช้งานรถได้อย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด คุ้มครองรถคุณให้ปลอดภัย ประกันรถยนต์ตามโปรไฟล์ ..โปรไฟล์ยิ่งดี ความเสี่ยงยิ่งต่ำ เบี้ยยิ่งถูก.. โปรไฟล์คุณอาจดีกว่าที่คุณคิด เบี้ยเริ่มต้นเพียง 6,999 บาท ประกันประเภท 1 ซ่อมอู่ ที่เบี้ยประกันภัยสอดคล้องกับข้อมูลผู้ซื้อประกัน
แม้จะเป็นรถประเภทเดียวกัน มียี่ห้อ รุ่นรถ ปีเดียวกัน แต่อัตราเบี้ยจะแตกต่างกันตามโปรไฟล์ หรือปัจจัยความเสี่ยงของลูกค้าแต่ละคน โดยปัจจัยที่ใช้ในการคำนวณ ได้แก่ การใช้รถเฉลี่ยต่อวัน เพศ อายุ อาชีพ เกรดเฉลี่ย (กรณีเป็นนักศึกษา) การมีที่อยู่อาศัยของตนเอง และสถานภาพการมีบุตร
และยังถูกลงได้อีก หากเลือกแบบมีดีดัก และระบุชื่อผู้ขับขี่ (ลดสูงสุดเหลือเพียง 3,999 บาท) ผู้ที่มีโปรไฟล์ดี หรือความเสี่ยงน้อย เบี้ยประกันรถยนต์ก็จะยิ่งถูกตามไปด้วย ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทุกเรื่อง ทั้งความเสียหายต่อตัวรถยนต์หรือบุคคลภายนอก รถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม เริ่มเช็กโปรไฟล์ของคุณได้แล้ว ที่นี่ https://smkall.smk.co.th สนใจรายละเอียด คลิก https://www.smk.co.th/productmotordetail/20 หรือ โทร. 1596 ตลอด 24 ชั่วโมง Line : smkinsurance และสามารถติดตามเนื้อหาสาระดีๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://smkinsurance.blogspot.com
ไม่มีความคิดเห็น: