Ads Top

SMK Insurance

“โปรตีน” สารก่อภูมิแพ้ ผู้ร้ายตัวจริงของขนแมว




“แมว” นับเป็นสัตว์เลี้ยงอันดับต้นๆ ที่ผู้คนจำนวนมากหลงใหลในความน่ารักและเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ละสายพันธุ์ก็ล้วนมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันไปตามความชอบของแต่ละบุคคล ด้วยท่วงท่าที่ปราดเปรียว ขี้อ้อนในบางครั้ง หยิ่งจองหองในบางที กลับยิ่งทำให้ผู้คนหลงใหลในเสน่ห์เฉพาะตัวของเจ้าเหมียวสี่ขาขนฟูได้อย่างไม่ยากนัก สินมั่นคงประกันภัย จึงนำเรื่องราวของเจ้าเหมียวมาฝากกันค่ะ 

สมาคมคนรักแมวนานาชาติ The Cat Fanciers' Association (CFA), สมาคมจดทะเบียนสายพันธุ์แมว The International Cat Association (TICA) และ องค์กรจดทะเบียนสายพันธุ์แมวนานาชาติ Fédération Internationale Féline (FIFe) ได้มีการจัดอันดับสายพันธุ์แมวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในโลกจำนวน 12 สายพันธุ์ ไว้ดังนี้

1. Siamese



แมวสยาม หรือ แมววิเชียรมาศ แมวไทยที่ชาวต่างชาติรู้จักกันดี หนึ่งในต้นตระกูลของแมวไทยที่ถูกนำไปปรับปรุงจนเกิดเป็นแมวไทยอีกหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งตามตำนานได้กล่าวไว้ว่า หากใครได้เลี้ยงแมววิเชียรมาศจะได้เป็นขุนนาง เพราะถือว่าแมววิเชียรมาศเป็นแมวแห่งโชคลาภนั่นเอง

2. Persian


มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเปอร์เซีย หรือประเทศตุรกีกับอิหร่านในปัจจุบัน ถือเป็นแมวต่างประเทศสายพันธุ์แรก ๆ ที่ถูกนำเข้ามาเลี้ยงในประเทศไทย ทำให้สายพันธุ์นี้เป็นที่นิยมในหมู่คนรักแมว เพราะนอกจากจะมีหน้าตาน่าเอ็นดูแล้ว ขนฟูของเจ้าแมวเปอร์เซียยังมีสีสันที่หลากหลาย และนิสัยส่วนตัวก็ยังน่ารักอีกด้วย

3. Maine Coon





แมวเมนคูนจะมีร่างกายที่ใหญ่โตกว่าแมวปกติจนได้รับสมญานามว่า Gentel Giant โดยชื่อของแมวสายพันธุ์นี้ มีแหล่งกำเนิดมาจากรัฐเมน (Maine) ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนคำว่า คูน (Coon) มาจากคำบอกเล่าของชาวพื้นเมืองที่กล่าวว่า แมวท้องถิ่นได้ไปผสมพันธุ์กับตัวแรคคูนจนมีการจับ 2 คำนี้มารวมกัน กลายเป็นชื่อที่ใช้เรียกกันทั่วไปว่า เมนคูน

4. Ragdoll


ด้วยขนที่ปุกปุยของแมวแรกดอลทำให้ใบหน้าดูใหญ่ หูขนาดกลางตั้งบนศีรษะเพื่อขับให้ใบหน้าให้เป็นทรงสามเหลี่ยม ขายาวและแข็งแรง ร่างกายมีสีอ่อนตัดกับสีเข้มของจุดที่เน้นบนใบหน้า เป็นแมวที่รักสงบ ใจเย็น และเข้าได้ดีกับทุกคนในครอบครัว สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงในชีวิตประจำวันได้  จึงเหมาะสำหรับการเลี้ยงในอะพาร์ตเมนต์


5. Bengal


แมวเบงกอลเป็นแมวที่มีลวดลายสวยงาม คล้ายกับลูกเสือดาวตัวน้อย โดยสันนิษฐานว่าแมวเบงกอลเกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างแมวดาวกับแมวบ้านสายพันธุ์อียิปต์เชียนมัวร์ ซึ่งเป็นแมวอียิปต์โบราณที่มีลักษณะคล้ายแมวป่า และถูกนำมาพัฒนาสายพันธุ์โดยชาวอเมริกัน

6. Abyssinian


อะบิสซิเนียนเป็นแมวที่กระตือรือร้นและสามารถควบคุมน้ำหนักของตัวเองได้ด้วยการออกกำลังกาย จึงต้องจัดเตรียมที่นอนและที่ปีนป่าย เพื่อให้สามารถปีนและกระโดดได้ อะบิสซิเนียนเป็นแมวสังคม ชอบการสุงสิงทั้งกับคนและสัตว์เลี้ยงตัวอื่น จึงสามารถปล่อยให้เล่นกับสัตว์อื่นได้เวลาที่ผู้ดูแลไม่อยู่บ้าน

7. Birman


แมวเบอร์แมน หรือ “แมวศักดิ์สิทธิ์แห่งพม่า” เป็นแมวที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศพม่า มีท่าทางสง่างาม ปกคลุมด้วยขนสีจาง อุ้งเท้าสีขาว ใบหน้า หู หางและขาสีเข้ม ขนของแมวพันธุ์นี้จะมีลักษณะเหมือนใยไหมและไม่พันกันยุ่งเหยิง จึงทำให้ง่ายต่อการดูแล แมวสายพันธุ์นี้ไม่ค่อยส่งเสียงดังมากนักและมักกระตือรือร้นมากกว่าแมวเปอร์เซีย เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเด็กๆ หรือใครก็ตามที่อยากเลี้ยงสัตว์แปลกใหม่ไว้ในบ้าน

8. Oriental Shorthair



เป็นสายพันธุ์ที่พัฒนามาจากแมวสายพันธุ์ Siamese ผสมกับแมวสายพันธุ์ต่างๆ ในประเทศอังกฤษ Oriental Shorthair เป็นแมวที่มีสุขภาพแข็งแรง ขนนุ่มลื่นเป็นเงา มีหูใหญ่ รูปทรงศีรษะเป็นทรงลิ่มและรูปร่างผอมยาว เป็นแมวที่เหมาะกับครอบครัวอยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ได้ แต่มีนิสัยไฮเปอร์ พลังงานเยอะ จึงควรมีพื้นที่ให้แมวสายพันธุ์ Oriental Shorthair ได้วิ่งเล่น

9. Sphynx


แมวพันธุ์สฟิงซ์เป็นที่รู้จักกันดีในฉายาแมวไร้ขน เป็นที่ถกเถียงกันว่า แมวพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศอียิปต์หรือฮาวายกันแน่ แต่สุดท้ายก็พบว่า ถูกนำมาเลี้ยงครั้งแรกที่ประเทศแคนาดา หัวมีลักษณะคล้ายลิ่ม หูเป็นรูปสามเหลี่ยมปลายมนกลม ตาสีอำพัน ลำตัวยาว ขายาวปานกลาง ผิวหนัง สีน้ำตาลขาว หรือดำขาว ขนเส้นเล็กสั้น พื้นท้องแถบขาวยาวตั้งแต่ปากตลอดทั้งลำตัว หาง ยาวปลายเรียว และที่สำคัญคือ ไม่มีขน สฟิงซ์เป็นแมวที่มีความรักใคร่เป็นมิตรกับเจ้าของมากที่สุด เชื่อฟัง เป็นมิตรกับคนแปลกหน้า ขี้อ้อน ขี้ประจบ จนทำให้หลายๆ คนหลงรักโดยไม่รู้ตัว

10. Devon Rex


เมื่อโตเต็มวัย แมวเดวอนเร็กซ์ จะมีศีรษะขนาดใหญ่ เป็นรูปสามเหลี่ยม และอกกว้าง เพศผู้มีขนาดใหญ่กว่าเพศเมียอย่างเห็นได้ชัด มีจมูกงุ้มใต้ตา หูกางเหมือนผีเสื้อ แต่เมื่อมองทั้งใบหน้าแล้ว จะทำให้แมวพันธุ์นี้ดูเหมือนเอลฟ์หรือภูตตัวเล็กๆ เดวอน เร็กซ์บางตัวจะไม่มีขนหรือมีขนที่เปราะบางมาก การแปรงขนอาจทำให้ขนหลุดร่วงออกทั้งหมดได้ ลักษณะนิสัยเป็นแมวที่กระตือรือร้นมีพลังงานมาก เป็นตัวตลกตัวน้อยที่จะช่วยให้หัวเราะได้จากความขี้เล่นของแมวพันธุ์นี้

11. Himalayan


แมวหิมาลายันเป็นแมวขนาดกลาง มีกระดูกใหญ่ และขนหนา ทำให้ดูเหมือนมีขนาดตัวใหญ่กว่าความเป็นจริง หางสั้นและหูเล็ก รูปหน้าแบน และมีสีจมูกตามสีผิว (nose leather) ขนหนาทึบ และยาว เป็นมันสวยงาม ลักษณะนิสัยเป็นแมวรักสงบ แต่ก็ชอบทำกิจกรรมแบบเด็กๆ บางครั้งอาจจะมานอนยืดเส้นข้างเจ้าของหรือว่านอนบนเตียง แม้กระทั่งนั่งบนตักคุณเมื่ออารมณ์ดี และเป็นมิตรกับทุกคน

12. American Shorthair


แมวสายพันธุ์อเมริกาที่สืบเชื้อสายมาจากประเทศในแถบยุโรป และแพร่พันธุ์มายังอเมริกา เมื่อสมัยที่ชาวยุโรปเดินทางไปแสวงหาถิ่นที่อยู่ใหม่ได้นำแมวอเมริกันช็อตแฮร์ติดเรือไปด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้หนูทำลายข้าวของ และได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ในเวลาต่อมา จนกลายเป็นแมวพื้นเมืองขนสั้นของอเมริกาไปในที่สุด


แม้เจ้าเหมียวตัวน้อยจะมีความน่ารักน่ากอดแค่ไหน แต่ก็ยังมีคนจำนวนหนึ่งต้องประสบปัญหาจากการแพ้ขนแมวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สินมั่นคงประกันภัย จึงได้รวบรวมความรู้ดีๆ สำหรับผู้ที่แพ้ขนแมวมาฝากกันค่ะ

นพ.ฆนัท ครุธกูล ที่ปรึกษากรรมาธิการสาธารณสุข สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ในรายการ นารีกระจ่าง ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสว่า ความเป็นจริงแล้ว ขนแมว ไม่ได้เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดสภาวะภูมิแพ้ แต่เกิดจากโปรตีนในสารคัดหลั่งที่ออกมาจากสุนัขหรือแมวปนเปื้อนมากับปลายขน เช่น น้ำลาย อุจจาระ หรือขี้ไคลต่างๆ แต่มนุษย์จะมีโอกาสแพ้ขนแมวได้มากกว่า เนื่องจากแมวจะเลียทำความสะอาดร่างกายตัวเองอยู่ตลอดเวลา


ปกติแล้ว ร่างกายของคนเราจะมีระบบภูมิคุ้มกันที่คอยกำจัดเชื้อโรคต่างๆ ที่จะเข้าสู่ร่างกาย ด้วยการสร้างสารฮีสตามีนออกมาต่อสู้กับโปรตีนชนิดต่างๆ ที่มีโครงสร้างของสิ่งมีชีวิต เช่น อาหารบางชนิด หรือเกสรดอกไม้ จนเกิดเป็นภาวะภูมิแพ้ ลมพิษ และผื่นขึ้นตามผิวหนัง หรือเกิดภาวะหอบหืด หายใจลำบาก ถึงขั้นซ็อกจนเสียชีวิต การแพ้ขนสัตว์จึงไม่เกี่ยวข้องกับการที่สุนัขหรือแมวมีขนที่ละเอียด เพราะโดยปกติแล้วทางเดินหายใจจะเป็นส่วนที่มีโอกาสสัมผัสกับเชื้อโรคได้มากที่สุด เมื่อต้องสัมผัสกับโปรตีนแปลกปลอมที่ร่างกายสูดดมเข้ามา ร่างกายจะมีกลไกป้องกันเชื้อโรคได้ในเบื้องต้น ผ่านขนจมูกที่เป็นเหมือนกรองอากาศของร่างกาย ช่วยให้เกิดภาวะภูมิแพ้ได้น้อยลง ขนของสุนัขและแมวจึงเป็นเพียงพาหะของเชื้อโรคเท่านั้น 


ผู้ที่เลี้ยงสุนัขและแมว จึงไม่ควรนำสัตว์เลี้ยงเข้านอนด้วย หรือควรจัดสภาพแวดล้อมของสัตว์เลี้ยงให้สะอาดเรียบร้อย เช่น แปรงขนให้สะอาด อาบน้ำให้เรียบร้อย พื้นที่สำหรับอุจจาระและปัสสาวะต้องแยกสัดส่วนให้ชัดเจน และผู้เลี้ยงก็ต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วย

สินมั่นคงประกันภัย พร้อมมอบหลักประกันสุขภาพให้คุณและผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ ด้วยประกันสุขภาพหลากหลายรูปแบบ ที่จะเป็นหลักประกันค่าใช้จ่ายให้กับผู้รักสุขภาพทุกท่าน สามารถนำไปใช้ร่วมกับสิทธิอื่นๆ ของภาครัฐได้ พร้อมรับส่วนลดเงินคืนสูงสุดถึง 20% กับประกันตามฟิต ตามก้าว เบี้ยเริ่มต้นที่ 4,463 บาท (ขึ้นอยู่กับช่วงอายุ) 

สินมั่นคงประกันสุขภาพ ...เราประกัน คุณมั่นใจ... สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.smk.co.th/producthealthdetail/1 หรือ โทร.1596 ตลอด 24 ชม.

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.