4 อาการต้องห้ามไม่ควรเสี่ยงออกกำลังกาย อาจป่วยหนักกว่าเดิม
การออกกำลังกายสามารถช่วยให้เรามีสุขภาพที่สมบูรณ์ แข็งแรง แต่การออกกำลังที่ดียังต้องเหมาะสมกับเพศ วัย และช่วงอายุ รวมถึงมีข้อควรระวังอื่นๆ ที่หากมีอาการดังกล่าว ควรหยุดการออกกำลังกายไปก่อน ดังนี้
1. มีไข้ หากอุณหภูมิในร่างกายสูงมากกว่า 38 C และไปออกกำลังกาย จะยิ่งทำให้เกิดการเผาผลาญอาหาร ไขมัน น้ำ เท่ากับร่างกายมีความร้อน 2 เด้ง สมอง กล้ามเนื้อ หัวใจอาจมีปัญหา
2. ท้องเสีย ผู้ที่ถ่ายท้องเกิน 2 ครั้งไม่ควรออกกำลังกาย เนื่องจากร่างกายสูญเสียเกลือแร่และน้ำ การออกกำลังกายจะทำให้เลือดข้นเกินไป อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บจากการออกกำลังกายได้
3. อดนอน ร่างกายอ่อนเพลีย พลังงานจะถูกนำไปใช้งานผิดประเภท อาจทำให้วูบหมดสติ หากจำเป็นต้องออกกำลังกายควรลดลง 30% แม้แต่นักกีฬาที่เชื่อมั่นว่า มีความฟิตก็อาจเกิดปัญหาเมื่อออกกำลังกายหลังอดนอน
4. มีการติดเชื้อแบคทีเรียรุนแรง เช่น เจ็บคอ ต่อมทอนซินอักเสบ เป็นฝีหรือหนองเม็ดโต การออกกำลังกายอาจทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปยังอวัยวะส่วนอื่นๆ
นอกจากนั้น ผู้ที่มีโรคประจำตัวก็ไม่เหมาะกับการออกกำลังกายหนักๆ เช่น ยกน้ำหนัก ควรเลือกออกกำลังกายเบาๆ แทน เช่น เดินเร็ว วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน
สำหรับผู้ที่ออกกำลังกายโดยปรกติ ควรวอร์มอัพร่างกายให้เพียงพอก่อน และหลังจากการออกกำลังกาย 5 - 10 นาทีควรทดสอบตัวเอง หรือพูดกับตัวเองประโยคยาวๆ ถ้าเราออกกำลังกายพอดี จะสามารถพูดประโยคยาวๆ ออกมาเป็นคำพูดได้ชัดเจน ถ้าพูดประโยคยาวๆ ไม่ได้ หายใจไม่ทัน แสดงว่า ออกกำลังกายหนักเกินกว่าที่ร่างกายจะรับไว้ ปอด หัวใจทำงานหนัก ควรลดการออกกำลังกายลง
แต่หากคุณต้องการหลักประกันความเสี่ยงเพิ่มเติมให้กับสุขภาพ วางใจทำประกันสุขภาพกับสินมั่นคงประกันภัย มีประกันสุขภาพให้คุณเลือกหลากหลายแบบตามความต้องการ ด้วยเบี้ยที่ไม่แพง และความคุ้มครองที่คุ้มค่า เพื่อคุณและคนที่คุณรัก โทร 1596 หรือ www.smk.co.th
หมายเหตุ: ข้อมูลจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ไม่มีความคิดเห็น: