Ads Top

SMK Insurance

c


ในการพิจารณาว่า ศูนย์ซ่อมหรืออู่ใดเป็นศูนย์ซ่อมที่ดี เหมาะสมกับรถคันโปรดของเรานั้น สินมั่นคงประกันภัย มีเกณฑ์มาตรฐานและข้อควรคำนึงถึง มาแนะนำเพื่อใช้เป็นแนวทางพิจารณาในการเลือกอู่ที่มีคุณภาพเและราคายุติธรรม ดังนี้

1) บรรยากาศ และสถานที่
ที่ตั้งของศูนย์บริการไม่ควรเดินทางลำบาก เพราะถ้าไม่มีรถขับแล้ว ต้องอาศัยรถสาธารณะเดินทาง ส่วนบรรยากาศโดยรอบควรมีห้องรับรองสำหรับลูกค้าระหว่างรอติดต่อ มีพื้นที่กว้างขวาง สะอาด แบ่งส่วนการทำงาน อย่างชัดเจน เป็นระเบียบเรียบร้อย มีเครื่องดับเพลิง ที่จอดรถมีเพียงพอ และปลอดภัยในการจัดเก็บรถยนต์ของลูกค้า

2) การบริการก่อนและหลัง
ก่อนเข้ารับบริการควรค้นหาข้อมูลการบริการของอู่ดังกล่าว โดยสอบถามคนรู้จัก หรือค้นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตว่า ติดต่อพนักงานได้สะดวก ให้รายละเอียดการบริการที่ชัดเจน สามารถรับผิดชอบตามงานได้ระหว่างซ่อมรถ และหากเกิดปัญหาหลังซ่อมก็สามารถดูแลได้ต่อเนื่อง

3) การซ่อมตัวถังทั้งหมด
โดยทั่วไปแล้ว การซ่อมจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ งานซ่อมหนัก ที่กำหนดให้อู่ต้องมีแท่นดึงและเครื่องยกตัวรถที่ได้มาตรฐาน เพื่อซ่อมดึงตัวถังรถยนต์ที่เกิดความเสียหายได้ตรงตามมาตรฐานของบริษัทผู้ผลิต ส่วนงานซ่อมเบา อู่ต้องมีเครื่องเชื่อมสปอต สำหรับดึงกระตุกตัวถังบุบ มีเครื่องเชื่อม CO2 มีลิฟท์ยกรถ 2 เสา และเครื่องมืออื่นๆ ที่ได้มาตรฐานในการซ่อม

4) การซ่อมสี
ในการซ่อมสีกำหนดให้ใช้สี 2 K (สีแห้งช้า) คือสีที่มีส่วนประกอบด้วยกัน 2 ส่วน คือ ส่วนแรกเป็นตัวเนื้อสีที่มีส่วนผสมเรซิน (Resin) เพื่อจะทำปฏิกิริยากับส่วนที่ 2 คือ ตัวเร่งปฏิกิริยาหรือ Hardener ซึ่งตัวเร่งนี้จะมีหน้าที่ทำปฏิกิริยาเรซินในเนื้อสี ทำให้สีนั้นมีความแห้งตัว มีคุณสมบัติยึดเกาะได้สูง ทนต่อเบนซินและดีเซล รวมถึงแดดแรงจัด ทำให้การซ่อมรถที่ได้รับอุบัติเหตุมานั้น เงางามและคงทนนาน ใกล้เคียงสีเดิมหรือสี OEM Paint ซึ่งเป็นสีที่พ่นมาจากโรงงาน อบด้วยอุณหภูมิสูง ถ้าให้ดีขึ้นในการซ่อมสี อู่ควรมีห้องอบพ่นสี หรือเครื่องดึงตัวถังว่ามีหรือไม่ และเป็นแบบไหน โดยเฉพาะหากรถที่นำเข้าไปซ่อมต้องมีการดึงตัวถังด้วย เครื่องดึงตัวถังที่ทันสมัยควรจะต้องเป็นเครื่องดึงแบบ 3 มิติ สามารถตั้งค่าด้วยคอมพิวเตอร์ได้ว่าจะดึงตัวถังรถรุ่นไหน

5) ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของทีมงาน
ก่อนเข้ารับบริการควรปรึกษาพูดคุยกับหัวหน้าช่างหรือเจ้าของอู่ เพื่อสอบถามถึงประวัติการทำงานโดยอ้อมและประสบการณ์ในการให้บริการ จำนวนช่างที่ให้บริการ การให้คำแนะนำต่างๆ ว่าชัดเจน และเป็นข้อมูลเชิงลึกเพียงใด

6) ลักษณะและอายุของรถ
อู่แต่ละแห่งย่อมเชี่ยวชาญรถแต่ละยี่ห้อไม่เหมือนกัน ต้องพิจารณาผลงานที่ผ่านมา นอกจากนี้รถยนต์ใหม่ทุกรุ่นนั้น โดยเฉพาะรถป้ายแดงจะมีการรับประกันคุณภาพของอุปกรณ์ และความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการผลิตอยู่แล้ว ซึ่งหากยังอยู่ในระยะประกัน จึงควรเลือกนำรถยนต์ไปรับบริการตรวจสอบสภาพที่ศูนย์บริการตามยี่ห้อรถนั้น ถึงแม้อู่ทั่วไปจะดูดีกว่า แต่การนำรถยนต์ไปซ่อมนอกศูนย์บริการ อาจทำให้ถูกยกเลิกการรับประกันทั้งหมด

7) มาตรฐานด้านอื่นๆ
มาตรฐานด้านอื่นๆ ที่ควรนำมาพิจารณา เช่น ความปลอดภัยของพนักงาน มีอุปกรณ์ป้องกัน เช่น หน้ากาก แว่นตา ถุงมือ ขณะทำงาน เวลาพัก และยังดูแลใส่ต่อสภาพแวดล้อมโดยรอบที่ตั้ง ไม่ส่งเสียงหรือกลิ่นรบกวนอีกด้วย

หลังจากพิจารณาศูนย์บริการได้ ก็อย่าลืมเรื่องประกันภัยรถยนต์ ที่สามารถให้บริการที่อู่นั้นได้ โดยคุณสามารถวางใจเลือกทำ ประกันรถยนต์กับสินมั่นคงประกันภัย ด้วยเบี้ยที่ไม่แพง พร้อมบริการที่สะดวก รวดเร็ว โทร 1596 หรือ www.smk.co.th


ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.