พระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสเกี่ยวกับสุขภาพกาย และจิตใจ
เนื่องในช่วงเดือนพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
เป็นพระราชพิธีที่รัฐบาลไทยจัดขึ้นเพื่อถวายความอาลัยเป็นครั้งสุดท้ายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บริษัท
สินมั่นคงประกันภัย จำกัด
(มหาชน)
จึงขออัญเชิญพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัส
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ที่ทรงพระราชทานแก่ปวงชนชาวไทย
เกี่ยวกับสุขภาพกายและจิตใจเพื่อเป็นสิริมงคล
และจักได้เป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติให้เจริญก้าวหน้าเพื่อความสุข
และสุขภาพกายใจที่ดีในชีวิตต่อไป
.
. . ความเข้มแข็งในจิตใจนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะต้องฝึกฝนแต่เล็ก
เพราะว่าต่อไป ถ้ามีชีวิตที่ลำบาก
ไปประสบ อุปสรรคใดๆ
ถ้าไม่มีความเข้มแข็ง
ไม่มีความรู้ ไม่มีทางที่จะผ่านอุปสรรคนั้นได้
เพราะว่าถ้าไปเจออุปสรรคอะไร
ก็ไม่มีอะไรที่จะมาช่วยเราได้
แต่ถ้ามีความรู้ มีอัธยาศัยที่ดี
และมีความเข้มแข็ง ในกาย
ในใจ ก็สามารถที่จะผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ
นั้นได้.
. .
พระราชดำรัส
พระราชทานแก่คณะครูและนักเรียนโรงเรียนราชวินิต
ณ
พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันศุกร์ที่
๓๑ ตุลาคม ๒๕๑๘
. . .ร่างกายของเรานั้น ธรรมชาติสร้างมาสำหรับให้ออกแรงใช้งาน มิใช่ ให้อยู่เฉยๆ ถ้าใช้แรงให้พอเหมาะพอดีโดยสม่ำเสมอ ร่างกายก็เจริญแข็งแรง คล่องแคล่ว และคงทนยั่งยืน ถ้าไม่ใช้แรงเลย หรือใช้ไม่เพียงพอ ร่างกายก็จะเจริญแข็งแรงอยู่ไม่ได้ แต่จะค่อยๆ เสื่อมไปเป็นลำดับ และหมดสมรรถภาพไปก่อนเวลาอันสมควร ดังนั้น ผู้ที่ปรกติทำการงานโดยไม่ได้ใช้กำลัง หรือใช้กำลังแต่น้อย จึงจำเป็นต้องหาเวลาออกกำลังกายให้พอเพียงกับความต้องการตามธรรมชาติเสมอทุกวัน มิฉะนั้น จะเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง ที่เขาจะใช้สติปัญญาความสามารถของเขาทำประโยชน์ให้แก่ตนเองและแก่ส่วนรวมได้น้อยเกินไปเพราะร่างกายอันกลับกลายอ่อนแอลงนั้น จะไม่อำนวยโอกาสให้ทำ การงานโดยมีประสิทธิภาพได้. . .
พระราชดำรัส
เพื่อเชิญไปอ่านในการประชุมสัมมนาเรื่องการออกกำลังเพื่อสุขภาพ
วันพุธที่
๑๗ ธันวาคม ๒๕๒๓
. . . ความสบายใจของคนเป็นของที่หายาก คนเราต้องมีความสบายใจ จึงจะมีชีวิตที่ราบรื่นได้. . .
พระราชดำรัส
พระราชทานแก่คณะกรรมการจัดงาน
"๕
ธันวาวันมหาราช"
ณ
พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันพุธที่
๕ เมษายน ๒๕๒๑
"...การรักษาความสมบูรณ์แข็งแรง เป็นปัจจัยของเศรษฐกิจที่ดีและสังคมที่มั่นคง เพราะร่างกายที่แข็งแรงจะอำนวยผล ให้สุขภาพจิตใจสมบูรณ์ และเมื่อมีสุขภาพสมบูรณ์ ดีพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจแล้ว ย่อมมีกำลังทำประโยชน์ สร้างสรรค์เศรษฐกิจและสังคมของบ้านเมืองได้เต็มที่..."
ความตอนหนึ่ง
ในพระบรมราโชวาท
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยมหิดล
ณ
อาคารใหม่ สวนอัมพร
วันที่
๒๒ ตุลาคม ๒๕๒๒
ในการดำเนินชีวิตของเรา
เราต้องข่มใจไม่กระทำสิ่งใดๆ
ที่เรารู้สึกด้วยใจจริงว่าชั่วว่าเสื่อม
เราต้องฝืนต้องต้านความคิดและความประพฤติทุกอย่างที่รู้สึกว่าขัดกับธรรมะ
เราต้องกล้าและบากบั่นที่จะกระทำสิ่งที่เราทราบว่าเป็นความดี
เป็นความถูกต้อง และเป็นธรรม
ถ้าเราร่วมกันทำเช่นนี้
ให้ได้จริงๆ ให้ผลของความดีบังเกิดมากขึ้นๆ
ก็จะช่วยค้ำจุนส่วนรวมไว้มิให้เสื่อมลงไป
และจะช่วยให้ฟื้นคืนดีขึ้นได้เป็นลำดับ
พระราชดำรัส
พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่าน
ในพิธีเปิดการประชุมยุวพุทธิกสมาคมทั่วประเทศ
ครั้งที่ ๑๒
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๑๓
ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต
ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต
ไม่มีความคิดเห็น: