การปรับกระจกรถยนต์อย่างไรให้ปลอดภัย
การปรับกระจกมองข้างรถยนต์
- ควรปรับให้กระจกกางออกโดยตั้งฉากและขนานกับตัวรถ ไม่ก้มหรือเงยมากเกินไป
- ปรับให้สามารถมองเห็นรถที่อยู่ด้านข้างและด้านหลังชัดเจนขึ้น แต่ต้องระวังไม่ปรับกระจกให้เห็นตัวถังรถด้านข้างมากเกินไป เพราะจะทำให้เกิดจุดบอดและเห็นรถคันอื่นในระยะกระชั้นชิด ช้ากว่าปกติ ควรรับให้เห็นรถด้านข้างประมาณ 15 – 20 เปอร์เซ็นต์ของตัวรถเท่านั้น
- ปรับให้เอียงลงพื้นเล็กน้อย ให้ผู้ขับสามารถเห็นด้านล่าง เช่น ขอบถนน ริมทางเท้า ได้อย่างชัดเจน
- การปรับกระจกข้างฝั่งผู้โดยสาร หากปรับแล้วผู้ขับสามารถมองเห็นคนนั่งข้างได้ แสดงว่าปรับกระจกเข้ามาที่ตัวรถมากเกินไปแล้ว
- ไม่ควรปรับกระจกไป-มาในขณะที่รถกำลังวิ่ง เพราะอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้
การปรับกระจกมองหลัง
- ควรปรับกระจกให้พ้นศีรษะของผู้ขับขี่ และ ต้องปรับให้เห็นมุมกว้างมากที่สุด
- ควรงดการตกแต่งรถยนต์ ด้วยการแขวนตุ๊กตาหรือติดสติ๊กเกอร์บริเวณกระจกหน้ารถ ด้านข้างและด้านหลังรถ เพราะจะบดบังทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางของผู้ขับขี่
- ต้องปรับให้ตั้งฉากกับตัวรถ และมองเห็นท้ายรถเล็กน้อย เพื่อจะได้มุมมองที่กว้างขึ้น ทำให้เห็นรถที่อยู่ทางด้านข้าง และรถที่อยู่ทางด้านหลังได้มากขึ้น โดยเมื่อนั่งในท่าปกติแล้ว ต้องมองไม่เห็นศีรษะของผู้ขับขี่ด้วย
- จุดบอดของกระจกมองหลัง คือ บริเวณด้านข้างของตัวรถ ทำให้มองไม่เห็นรถที่วิ่งอยู่ในบริเวณที่เป็นจุดบอด จึงมีกระจกมองข้าง ช่วยมองในตำแหน่งที่เป็นจุดบอด ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา
การมองกระจกในขณะขับรถ ควรมองกระจกให้รอบด้านเป็นระยะ โดยมองกระจกหลัง กระจกมองข้างด้านซ้ายและด้านขวาให้ครอบคลุมถึงจุดบอดในการมองเห็นทั้งด้านซ้ายและด้านขวาสลับไปมา โดยผู้ขับขี่จะหันมองด้านซ้ายหรือด้านขวาก่อนขึ้นอยู่กับสถานการณ์ โดยเฉพาะเมื่อเปลี่ยนช่องทาง ขับแซงหรือเลี้ยวรถ จะทำให้มองเห็นสภาพเส้นทางและรถคันอื่นๆ ที่อยู่ด้านข้างและด้านหลังอย่างชัดเจนและรวดเร็ว จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางได้
เพิ่มความคุ้มครองให้กับรถยนต์ของท่าน ..เลือกสินมั่นคงประกันภัย..ประกันรถ ประกันเวลา..
วางใจทำประกันรถยนต์กับเรา ด้วยเบี้ยที่ไม่แพง พร้อมบริการที่สะดวก รวดเร็ว โทร 1596 หรือ www.smk.co.th
ที่มา : กรมประชาสัมพันธ์ กรมการขนส่งทางบก
Photo source: freepik.com
Photo source: freepik.com
ไม่มีความคิดเห็น: