เคล็ดลับการป้องกันดูแลสีรถยนต์

การดูแลสีรถให้สวยงามอยู่เสมอ ก็คือการไม่ทำให้รถสกปรก หรือมีคราบต่างๆซึ่งส่งผลต่อสีเคลือบรถ การป้องกันไม่ให้เกิดคราบสกปรกบนรถจึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่ถ้าหากเกิดคราบสกปรกขึ้นมาควรขจัดคราบต่างๆ บนตัวรถควรใช้วิธีที่ถูกต้อง จึงได้รวบรวมปัจจัยที่มีผลต่อสีรถยนต์ และวิธีการดูแลที่ถูกต้องมาดังนี้


แมลงที่บินมาชนรถ
การขับขี่ในเวลากลางคืน ทำให้แมลงอาจบินมาชนรถเราได้ ซึ่งแมลงสามารถสร้างความเสียหายให้กับสีของเราได้ แมลงมีฤทธิ์เป็นกรด คราบจากแมลงที่บินมาชนรถเราจึงสามารถทำลายสีของรถได้
วิธีการดูแล : ไม่ควรปล่อยแมลงรวมถึงคราบจากแมลงไว้นานเกินไป ควรรีบล้างทำความสะอาดในทันทีเมื่อทำได้ ยิ่งล้างออกเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งล้างออกได้ง่าย


คราบน้ำมัน
น้ำมันที่ล้นจนหกออกมาเปื้อนรถ หากทิ้งคราบน้ำมันสกปรกไว้เป็นระยะเวลานานโดยไม่เช็ดทำความสะอาด รอยน้ำมันสามารถซึมเปื้อนลงสู่สีเคลือบชั้นบนสุดและทำให้รถสีไม่มันวาว และทิ้งคราบที่ยากต่อการทำความสะอาด
วิธีการดูแล : หากเห็นคราบน้ำมัน ให้รีบทำความสะอาดทันที


ขี้นก
ขี้นกมีฤทธิ์เป็นกรดหากคุณทิ้งคราบไว้นานจนเกินไป ทำให้ความมันวาวลดลง และในขี้นกจะมีเมล็ดต่างๆขนาดเล็กที่อาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนรถคุณ
วิธีการดูแล :  อย่านำกระดาษทิชชู หรือผ้าไปเช็ดออกเด็ดขาด เพราะด้วยความที่มันติด มันแห้งมานานแล้ว พอเช็ดไปมันอาจทำให้รถของคุณเป็นรอยได้  ทางที่ดีให้นำสเปรย์ทำความสะอาดฉีดพ่นลงไป หรือถ้าไม่มี ให้ใช้น้ำเปล่าเทราดลงไปให้ชุ่ม จากนั้นรอสักครู่ เพื่อให้ขี้นกอ่อนตัวลง แล้วจึงค่อยๆ เช็ด ค่อยๆ แตะให้มันออกเบาๆ

เศษหิน
ก้อนกรวด เศษหิน เศษดิน เศษทรายนั้นมีอยู่ทุกที่บนถนน สะเก็ดหินเล็กๆ ามารถกระเด็นมาจากพื้นถนนและทิ้งรอยขีดข่วนที่ด้านข้างของรถคุณ ซึ่งสามารถทำให้สีเคลือบด้านสุดบนเป็นรอย ในบางครั้งอาจทำความเสียหายไปถึงสีชั้นล่างสุดของรถคุณ อาจทำให้พื้นผิวของสีถลอก ซึ่งจะทำให้เกิดสนิมตามบริเวณบังโคลน
วิธีการดูแล : หลีกเลี่ยงในบริเวณที่จะโดนเศษหินต่างๆ เช่น การขับรถใกล้ๆรถขนดิน


รอยนิ้วมือ
การลากนิ้วมือของคุณไปบนสีรถที่เลอะฝุ่น นั้นเปรียบเสมือนการลากกระดาษทรายที่ค่อยๆ บดฝุ่นผงและสิ่งสกปรกลงบนสีรถและทิ้งร่องรอยขจัดยากหลังจากสิ่งสกปรกเหล่านั้นได้หมดไป
วิธีการดูแล : ไม่ควรไปยุ่งกับครบสกปรกนั้น ควรใช้แปรงปัดฝุ่นบนรถคุณทุกวัน เพื่อป้องกันการขัดถู


ขี้เถ้าและคราบฝุ่น
ฝุ่นและเขม่าดำบนรถ เมื่อน้ำมาเจอกับฝุ่นจะทำให้เกิดรอยด่างที่เด่นชัด ทั้งยังทำร้ายสีบนรถคุณ ฝุ่นผง แม้จะดูไม่น่ากลัว หรือมีปัญหาอะไร แต่เมื่อใดที่มันมาเกาะที่รถแล้วเจอความชื้น มันก็จะกลายเป็นคราบทันที หากคุณไม่รีบเช็ด มันก็จะเกาะติดแน่นจนเป็นรอยด่างให้กับสีรถ
วิธีการดูแล : การป้องกันที่ง่ายที่สุดคือคลุมรถของคุณหากจอดไว้ข้างนอก วิธีขจัดคราบฝุ่นออก เพียงใช้แปรงปัดฝุ่นปัดออกเบาๆ  หากเป็นคราบที่ฝังแน่นสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการขัดสีรถ


อุปกรณ์ล้างรถที่สกปรก
หากคุณล้างรถโดยใช้อุปกรณ์ล้างรถที่สกปรก คุณก็สามารถทำลายสีบนรถคุณได้อย่างถาวร หากคุณยังคงใช้อุปกรณ์ล้างรถชิ้นนั้นไปเรื่อยๆ คุณอาจทิ้งรอย
หมุนวนและรอยขีดข่วนบนรถของคุณ
วิธีการดูแล : ถ้าผ้าหรือฟองทำความสะอาดรถน้ำร่วงลงพื้น ควรเปลี่ยนไปใช้อันใหม่จะดีกว่า คุณควรสำรองผ้าทำความสะอาดรถไว้ใกล้มือคุณสักหนึ่งถึงสองอัน และหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ล้างรถที่สกปรกและทิ้งรอยขีดข่วน


จอดรถกลางแจ้ง
ลานจอดรถบางที่อาจเป็นลานโล่งๆ ไม่มีที่ให้หลบแดด หากรถเป็นสี เข้ม เช่น สีดำ มันจะยิ่งสะสม และดึงดูดความร้อนได้ดียิ่งกว่ารถสีอ่อน จะยิ่งทำให้สีรถเสื่อมสภาพเร็วขึ้น  รถที่มีสีอ่อนสามารถเกิดความ ร้อน 80 องศาเซลเซียส และรถที่มีสีทึบ สามารถเกิด ความร้อนถึง 120 องศาเซลเซียส ถ้าจอดทิ้งไว้กลางแดดนาน ๆ อาจทำให้สีเริ่มแตกได้ โดยเฉพาะพื้นที่รับแสงเต็ม ๆ เช่น บริเวณหลังคา และฝากระโปรง
วิธีการดูแล :  หากไม่สามารถหาที่จอดในร่มได้ ให้หาผ้าคลุมรถมาคลุมรถ หรือหาที่จอดใต้ต้นไม้ ที่จอดที่หลบมุมแดดได้ดีที่สุดที่ทำได้


รอยขนแมว รอยขีดข่วน 
อาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่จริงๆ แล้วมันค่อนข้างน่ากลัวทีเดียว เพราะสีรถยนต์มีตัวเคลือบเอาไว้อยู่ เพื่อไม่ให้ความชื้นผ่านเข้าไปถึงชั้นโลหะ หรือแผ่นเหล็ก เนื่องจากมันจะก่อให้เกิดสนิมขึ้นที่เหล็กชั้นใน และหากเจอความชื้นสลับกับความร้อนบ่อยๆ ก็จะทำให้ สีปูดขึ้นมาได้


ยางมะตอย 
หากไม่สามารถเลี่ยงเส้นทางทำถนนได้ หากโดนยางมะตอยแล้ว เมื่อยางมะตอยแข็งตัว จะยิ่งทำให้เกาะสีรถยนต์ของเรามากขึ้น ทำให้ยากต่อการล้างออกได้
วิธีการดูแล : ควรเข้าร้านล้างรถหรือรีบล้างออกด้วยน้ำแรงดันสูงอันดับแรกให้เร็วที่สุด ก่อนจะใช้น้ำยาสำหรับเช็ดทำความสะอาดยางมะตอย เพราะและหลังโดนยางมะตอยไม่ควรใช้ผ้าเช็ด เพราะนั้นอาจทำให้สีรถยนต์ ของเราเป็นรอยจากเศษหินและทรายที่ปะปนอยู่ในยางมะตอยนั้นเอง


การจอดรถใต้ต้นไม้
การจอดรถอยู่ใต้ต้นไม้ อาจทำให้ยางจากต้นไม้หรือขี้แมลงตกลงมาทำลายสีรถยนต์ของเราได้ อาจทำให้ยางจากต้นไม้หรือขี้แมลงตกลงมาทำลายสีรถยนต์ของเรา
วิธีการดูแล : ควรหาผ้าคลุมรถ


วิธีการดูแลสีรถเพิ่มเติมมีดังนี้

1. หลีกเลี่ยงการล้างรถหลังตากแดดร้อนจัดหรือหลังเดินทาง หากความร้อนที่ฝากระโปรงยังมีอยู่ควร ปล่อยทิ้งไว้สักระยะหนึ่ง จนกระทั่งผิวรถเย็นจึงค่อยจัดการล้างทำความสะอาด

2. หากพบว่ามีน้ำค้างเกาะอยู่บนหลังคา ฝากระโปรงหน้าและหลังของรถยนต์ ให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาดและเช็ดให้แห้ง เพราะหยดน้ำค้างเหล่านั้นจะกลายสภาพเป็นเลนส์นูนเมื่อกระทบกับแสงแดด และเกิดความร้อนสูงตกกระทบที่สีรถทำให้สีรถด้านได้เร็วขึ้น

3. หลังจากล้างรถเสร็จแล้วให้นำรถออกไปวิ่งสักหนึ่งหรือสองกิโลเมตรเป็นอย่างน้อย เพื่อให้หยดน้ำที่ตกค้างตามซอกต่างๆ ไหลออกไปให้หมดจะได้ไม่กลายเป็นสนิม

การทำประกันภัยรถยนต์เป็นอีกหนึ่งทางที่จะช่วยลดความเสี่ยง และให้ความคุ้มครองในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น...เลือกสินมั่นคงประกันภัย..ประกันรถ ประกันเวลา..วางใจทำประกันรถยนต์กับเรา ด้วยเบี้ยที่ไม่แพง พร้อมบริการที่สะดวก รวดเร็ว โทร 1596 หรือ www.smk.co.th

Photo source: pexels.com