เทคนิคการขับรถถนอมระบบช่วงล่างรถยนต์
ระบบช่วงล่างของรถยนต์มีหน้าที่ รองรับน้ำหนักการบรรทุกต่างๆ รวมถึงเป็นตัวขับเคลื่อนในหลายๆ อุปกรณ์ให้รถยนต์สามารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้อย่างเป็นปกติ ประกอบไปด้วยอุปกรณ์หลายอย่าง เช่น โช้คอัพ แร็คพวงมาลัย ลูกหมาก ปีกนก คันชักกันส่ง ระบบเบรค เป็นต้น
ความสำคัญของระบบช่วงล่างรถยนต์
1. รองรับน้ำหนัก เป็นส่วนที่ทำหน้าที่รับภาระจากการสัมผัสโดยตรงกับพื้นถนน และระบบนี้จะคอยควบคุมการเคลื่อนไหวของรถที่เกิดจากแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นกับตัวรถในแนวดิ่ง ทำให้รถเวลาตกหลุมหรือเคลื่อนที่ผ่านผิวถนน ที่มีความขรุขระแล้วจะไม่ส่งผลต่อห้องโดยสารให้ความนุ่มนวลในการขับขี่
2. ช่วยในการควบคุมการขับขี่ให้มีประสิทธิภาพ ระบบรองรับน้ำหนักช่วงบนอย่างสปริงจะคอยช่วยลดน้ำหนักในการกระแทกและปรับสมดุลการเคลื่อนไหวแนวดิ่งของรถยนต์ จะทำงานสัมพันธ์กับระบบรองรับน้ำหนักช่วงล่างอย่าง แหนบ เพลา และล้อของรถยนต์ ให้ทำงานประสานกันกับการควบคุมของผู้ขับขี่ ซึ่งจะช่วยให้ประสิทธิภาพการควบคุมการเคลื่อนที่ของรถดีขึ้นและมีความปลอดภัยที่มากขึ้น
3. รักษาระดับความสูงของตัวรถ ระบบช่วงล่างจะทำการปรับระดับของล้อที่สัมผัสกับผิวถนนโดยที่ไม่ส่งผลต่อระดับความสูงของตัวถังรถ ทำให้เกิดความสมดุลระหว่างขับขี่และการควบคุมรถให้ทำงานร่วมกันอย่างเต็มประสิทธิภาพ
4. ควบคุมการตั้งฉากของล้อกับพื้นถนน ระบบช่วงล่างถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้หน้ายางของรถยนต์นั้นสัมผัสกับพื้นถนนให้ได้มากที่สุดทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการขับขี่ของผู้โดยสารรักษาสมดุลของล้อในขณะรถเข้าโค้ง ช่วยให้การเคลื่อนที่ของรถอยู่ในสภาพปกติ
1. ขับในความเร็วที่เหมาะสม 70 – 90 กม./ ชม. จะได้ชะลอรถทันหากเกิดเหตุฉุกเฉินไม่ต้องเหยียบเบรคอย่างรุนแรง ส่งผลต่อระบบเบรก
2. การขับรถต้องมองทางข้างหน้าและสังเกตพื้นผิวถนน ว่ามีความเสียหายหรือมีหลุมมีบ่ออะไรหรือไม่ ก่อนชะลอความเร็ว
3. ทางขึ้นและลงบริเวณคอสะพานมักจะมีการทรุดตัวทำให้พื้นที่มีความต่างระดับกัน ควรชะลอรถให้มีความเร็วต่ำแล้วค่อยๆไป
4. ขับรถขึ้นทางลาดชันหรือทางขึ้นลานจอดรถในขณะที่เราขับรถวนขึ้นลานจอดรถ ทุกครั้งที่ล้อเราหักเลี้ยวพร้อมกับขึ้นทางชันที่ต่างระดับรถจะเกิดการบิดตัวเพราะฉะนั้นในช่วงนี้เราไม่ควรขับรถความเร็วในขณะขึ้นทางที่ต่างระดับเพื่อให้รถมีการบิดตัวน้อยลง
5. การขับผ่านลูกระนาดในหมู่บ้าน ทุกครั้งที่ต้องขับผ่านลูกระนาดให้เบรคก่อนที่จะถึงลูกระนาด ก่อนที่ล้อจะขึ้นลูกระนาดให้ปล่อยเบรคทันที ไม่ควรเหยียบเบรกในขณะขึ้นลูกระนาด
6. ควรเติมลมยางให้เต็ม ตามที่ระบุในคู่มือรถ ถ้าลมยางอ่อนเกินไปจำทำให้ระบบการบังคับเลี้ยวทำงานหนักกว่าปกติ จะส่งผลให้เกิดความสึกหรอได้เร็วกว่าเดิม
7. ไม่ออกรถด้วยความรุนแรง การออกตัวด้วยความรุนแรงนั้นจะส่งผลให้ระบบส่งกำลังอย่างเช่น ชุดเพลาขับ เฟืองท้าย สึกหรอเร็ว ควรใช้คันเร่งให้เหมาะสมในการออกตัว
เพิ่มความคุ้มครองให้กับรถยนต์ของท่าน เลือกสินมั่นคง ประกันภัย..ประกันรถ ประกันเวลา..วางใจทำประกันรถยนต์กับเรา ด้วยเบี้ยที่ไม่แพง พร้อมบริการที่สะดวก รวดเร็ว
ไม่มีความคิดเห็น: